ข้อเข่าเสื่อม เกิดจากอะไร เจ็บจนจิตเสื่อม รักษาได้ ไม่ผ่าตัด
เข่าเสื่อม (Knee Osteoarthritis) หรือที่รู้จักกันในนามของโรค ข้อเข่าเสื่อม เป็นผลมาจากการสึกของข้อต่อ และการสูญเสียกระดูกเมื่ออายุมากขึ้น ซึ่งพบมากที่สุดในผู้สูงอายุ
เข่าเสื่อม เกิดจาก ความปิดปกติที่เกิดขึ้นในข้อต่อ สามารถแบ่งออกเป็นสองประเภท กระดูกถูกทำลายเมื่ออายุมากขึ้น เกิดจากแรงกระแทกในข้อเข่า เช่น เกิดจากการบาดเจ็บหลังจากอุบัติเหตุ อาการหัวเข่าเสื่อม มักเป็นโรคที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและอาจทำให้เกิดความพิการได้ในที่สุด อาการอาจแตกต่างไปในแต่ละบุคคล แต่มักเป็นไปในทิศทางที่รุนแรงขึ้น มักเกิดความเจ็บปวดที่ข้อเข่าที่เกิดขึ้นเรื่อย ๆ และแย่ลงเมื่อทำกิจกรรม ข้อเข่าตึงและบวม รวมทั้งเจ็บปวดหลังจากนั่งหรือพักผ่อนนาน ๆ
การรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม เริ่มต้นด้วยวิธีการรักษาแบบง่าย ๆ ก่อน เช่น การทำกายภาพ และตัวเลือกการรักษาผ่านการผ่าตัด เมื่อการรักษาไม่สำเร็จ แม้ว่ายาบางชนิดสามารถช่วยลดการการปวด และโรคข้ออักเสบอื่น ๆ ได้ แต่ยังไม่มีตัวยาที่ได้รับการพิสูจน์ว่าสามารถรักษาโรคเข่าเสื่อมของมนุษย์ได้
สาเหตุ เข่าเสื่อม เกิดจากอะไร
โรคข้อเข่าเสื่อม ถือเป็นประเภทโรคที่ขึ้นอยู่กับสาเหตุว่ามีที่มาจากไหน โรคข้อเข่าเสื่อมถูกจำแนกเป็นหลายสาเหตุ ขึ้นอยู่กับสาเหตุของอาการ อาจเกิดจากการเสื่อมของกระดูกข้อเข่าโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งมักถูกพิจารณาว่าเป็นการเสื่อมจากการเปลี่ยนแปลงของอายุตามช่วงวัย รวมถึงการสึกของกระดูกจากการใช้งานหนัก
ข้อเข่าเสื่อม คือ ชนิดของโรคข้ออักเสบที่ทุกคนเป็นมากที่สุด และจำนวนคนที่เป็นโรคนี้จะยังคงเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากอายุขัยที่เพิ่มขึ้นทุก ๆ วัน และปัญหาโรคอ้วน พบว่า 13% ของผู้หญิง และ 10% ของผู้ชาย ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป เริ่มเป็นโรคเข่าเสื่อมที่มีอาการปวดให้เห็น ในกลุ่มคนที่มีอายุมากกว่า 70 ปี จะพบโรคเข่าเสื่อมเพิ่มมากถึงร้อยละ 40% ความเสี่ยงในการเป็นโรคเข่าเสื่อมในเพศชายจะน้อยกว่าเพศหญิง แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะเป็นโรคเข่าเสื่อมหรือมีอาการ งานวิจัยหนึ่งพบว่า มีเพียง 15% ของผู้ป่วยที่เจออาการของโรคเข่าเสื่อม หรือมีอาการโดยไม่ขึ้นอยู่กับอายุ
“การเกิดโรคข้อเข่าเสื่อมมักจะพบอาการประมาณ 240 เคส ต่อ 100,000 คนต่อปี ไม่มีใครอยากเป็นหนึ่งในนั้น”
โรคข้อเข่าเสื่อมจะมีความเชื่อมโยงกับความแก่ชรา กระดูกเข่าประกอบไปด้วย Collagen, Proteoglycans, Chondrocytes และน้ำ เป็นส่วนใหญ่ กระดูกเข่าที่สุขภาพดี สามารถรักษาสมดุลระหว่างส่วนประกอบแต่ละอย่าง ดังนั้นกระดูกข้อเข่าที่สุขภาพดีจะเสี่ยงเป็นโรคเข่าเสื่อม สำหรับโรคเข่าเสื่อมนั้น สมดุลข้อเข่าจะถูกทำลายและทำให้เกิดการสูญเสีย Collagen และ Proteoglycans (โปรตีนที่ช่วยทำหน้าที่เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของเนื้อเยื่อและโครงสร้าง) ไปทั้งหมด
ช่วงเริ่มต้นของโรคข้อเข่าเสื่อม อาการปวดติดขัดข้อเข่าจะแสดงออกมา และเข้าคู่กับกระบวนการสลายของมวลกระดูกและสารหล่อลื่น อย่างไรก็ตาม กระบวนการซ่อมแซมจากอาหารเสริมก็ไม่เพียงพอต่อการฟื้นฟู การสูญเสียสมดุลในข้อต่อทำให้มีจำนวน Proteoglycans ลดลง คอลลาเจนลดลง และในที่สุดข้อต่อจะสูญเสียความยืดหยุ่นของกระดูกเข่า การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ทำให้เกิดรอยแตกและรอยแยกของกระดูกเข่า และในที่สุดจะเกิดการกัดเซาะกระดูกของพื้นผิวข้อเข่า
ปัจจัยเสี่ยง ข้อเข่าเสื่อม
ปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงของเราต่อโรคข้อกระดูกเสื่อมมีดังต่อไปนี้
อายุมากขึ้น
ความเสี่ยงของโรคข้อกระดูกเสื่อมจะเพิ่มขึ้นตามช่วงอายุ ยิ่งอายุมากกระดูกยิ่งเสื่อมตามกาลเวล
เพศ
ผู้หญิงมีโอกาสที่จะเป็นโรคข้อกระดูกเสื่อมมากกว่าผู้ชาย แม้จะไม่มีเหตุผลที่ชัดเจนว่าเป็นเพราะอะไร
โรคอ้วน
การมีน้ำหนักเกินมีส่วนทำให้เสี่ยงเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม และยิ่งน้ำหนักมากเท่าไรยิ่งมีความเสี่ยงสูง
นอกจากนี้ น้ำหนักตัวที่มากนั้นทำให้เกิดแรงกดที่ข้อต่อที่ต้องรับน้ำหนัก เช่น สะโพกและเข่า และไขมันในร่างกายยังผลิตโปรตีนที่สามารถทำให้เกิดการอักเสบที่เป็นอันตรายต่อข้อของเรา
บาดเจ็บที่ข้อเข่า
เช่น เมื่อเล่นกีฬาหรือจากอุบัติเหตุ เพิ่มความเสี่ยงของโรคข้อเข่าเสื่อม แม้จะมีการบาดเจ็บที่เกิดมาก่อนหน้า และที่ดูเหมือนจะหายแล้วแต่ก็สามารถเพิ่มความเสี่ยงให้ อาการหัวเข่าเสื่อม
แรงกดดันที่กระทำกับข้อเข่า
หากกิจกรรมหรือกีฬาที่ทำให้ข้อเข่าเกิดการใช้งานอย่างซ้ำ ๆ เข่าของเราอาจเสี่ยงเป็นโรคข้อกระดูกหัวเข่าเสื่อมได้ในที่สุด
พันธุกรรม
ในร่างกายบางคนสามารถการเกิดโรคข้อกระดูกเสื่อมได้ง่าย เยื่อกระดูกเสื่อม บางคนเกิดมาพร้อมข้อเข่าที่ผิดรูปหรือโครงสร้างกระดูกที่มีข้อบกพร่อง
บางโรคแทรกซ้อน
รวมถึงโรคเบาหวานและสภาวะที่ร่างกายมีความเสื่อมด้านหลอดเลือด หรือระบบประสาท
เบื้องหลังอาการเจ็บป่วย มีผลกับปัจจัยเสี่ยง โรคข้อเข่าเสื่อม
ผู้ป่วยที่เคยมีประวัติการเจ็บปวดที่เกิดขึ้นที่เข่าเป็นปัจจัยหลักที่นำไปสู่อาการเข่าเสื่อมก่อนวัย ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นที่เข่าอาจมีที่มาจากกระดูกสันหลังหรือข้อสะโพก การเก็บประวัติทางการแพทย์ และการผ่าตัดอย่างละเอียด มีความสำคัญต่อการหาปัจจัยเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับโรคข้อเข่าเสื่อมที่มีอาการปวดแบบไม่รู้สาเหตุ
การวินิจฉัยโรคเข่าเสื่อมจากประวัติของอาการป่วย
- ตำแหน่งที่เจ็บปวดเฉพาะจุด
- ระยะเวลาของความเจ็บปวดและอาการ
- ลักษณะของความเจ็บปวด
- ปัจจัยที่ทำให้เจ็บปวดลดลงหรือเพิ่มขึ้น
- การกระจายของความเจ็บปวด
- ระยะเวลาที่เจ็บปวดเกิดขึ้นเฉพาะจุด
- ความรุนแรงของอาการ
- กิจกรรมที่ทำในที่ปัจจุบันของผู้ป่วย
อาการหัวเข่าเสื่อม
โรคข้อเข่าเสื่อมเกิดขึ้นเมื่อกระดูกข้อเข่าของเราสึก หลุด หรือเสียหาย เนื้อเยื่อรอบเข่าที่แข็งแรงและยืดหยุ่นนั้นจะช่วยให้เราสามารถเคลื่อนไหวเข่าได้ หากเรามีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงจะสามารถรับแรงกระแทกจากความดันที่มีต่อเข่าของเราได้
เนื้อเยื่อข้อเข่าของเราคล้ายกับตัวดักแรงสะเทือนของรถเวลาขับตกหลุม ที่ป้องกันรถจากการระโดดและกระแทก ยิ่งเราชอบขับรถในถนนที่เป็นหลุม ตัวซับแรงสะเทือนของเราจะสึกและเสื่อมไว หากขับรถในถนนที่ราบเรียบ ตัวซับแรงสะเทือนของเราจะใช้ได้นาน ทำให้เนื้อเยื่อข้อเข่าสึกหรือเสียหายได้ช้า
โรคข้อเข่าเสื่อมส่งผลอย่างไรต่อร่างกาย
การเจ็บในข้อเข่าเป็นอาการที่พบบ่อยที่สุดในโรคเข่าเสื่อม ทำให้รู้สึกเจ็บเมื่อวิ่งเล่น วิ่ง ขึ้นบันได หรือเมื่อต้องก้มตัว นอกจากนี้ยังทำให้ข้อเข่ารู้สึกตึงหรือบวมได้ เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก รูปของข้อเข่าอาจเปลี่ยนเป็นเข่าโก่งได้ ทำให้รู้สึกว่าข้อเข่าไม่มั่นคงเวลาเดิน
อาการปวดบวมจะดีขึ้นเมื่อประคบน้ำแข็งหรือใช้ยารักษาอาการอักเสบ อาการมักเกิดขึ้นช้า ๆ และแย่ลงหากไม่รีบรักษา ภาวะและอาการของโรคข้อข้อเข่าเสื่อมประกอบด้วย
- อาการปวดมีมากขึ้นเมื่อทำกิจกรรมในระยะยาว
- ปวดขึ้นเมื่อทำกิจกรรมที่ต้องงอเข่าซ้ำ ๆ หรือขึ้นบันได
- ความเจ็บปวด ปวดเข่าจนนอนไม่หลับ ข้อที่ถูกกระทบอาจเจ็บปวดขณะยืนหรือเคลื่อนไหว
- ยิ่งปล่อยไว้นานยอ่งปวดเข่ามากขึ้นตามระยะเวลา
- ข้อเข่าตึง ความแข็งของข้ออาจเป็นที่สังเกตได้มากที่สุดตอนตื่นนอนหรือหลังจากพักผ่อน
- ความสามารถในการเดินลดลง การสูญเสียความยืดหยุ่น อาจไม่สามารถเคลื่อนไหวข้อเข่าได้เลย
- ความรู้สึกมีเสียงในข้อ เมื่อมีการใช้ข้อ และคุณอาจได้ยินเสียงก๊อบแก๊บ
- อาการบวม อาจเกิดจากการอักเสบของเนื้อเยื่อรอบข้อเข่า
การตรวจสุขภาพข้อเข่า
การทดสอบช่วงการเคลื่อนไหว เป็นส่วนสำคัญของการตรวจข้อเข่า ควรประเมินและบันทึกการเคลื่อนไหวทั้งในช่วงที่เป็นการเคลื่อนไหวด้วยตนเองและการเคลื่อนไหวแบบให้แพทย์ตรวจดู เน้นสังเกตที่การงอและการหดตัวของเข่า
การสัมผัสที่กระดูกและกล้ามเนื้อ เป็นส่วนสำคัญของการตรวจปัญหาข้อเข่า การสัมผัสสามารถแยกออกเป็นโครงสร้างของข้อเข่า ข้างซ้าย ตรงกลาง และข้างขวาของข้อเข่า
การประเมินความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อเข่าเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากผู้ป่วยโรคเข่าเสื่อมมักจะกลายเป็นภาวะขาดกล้ามเนื้อในกรณีที่มีอาการปวดเข่า การทดสอบความรู้สึกของเส้นประสาท ประสาทเบาหวาน อาจพบต้นตอของอาการปวดที่เกี่ยวข้องกันกับข้อเข่า อาจพบปัญหาทางหลอดเลือดไปด้วย
นอกจากประวัติและการตรวจร่างกายอย่างละเอียดแล้ว การถ่ายภาพทางรังสีเป็นสิ่งที่จำเป็น เพื่อให้การประเมินความแม่นยำมากขึ้น ที่สำคัญต้องถ่ายภาพรังสีข้อเข่าในขณะที่ผู้ป่วยยืน บ่อยครั้งจะถูกถ่ายทำขณะที่ผู้ป่วยนอนหงาย ซึ่งอาจทำให้มีความผิดพลาดในการดูพื้นที่ข้อต่อที่มีปัญหา และไม่ควรนำมาใช้ในการประเมินเกี่ยวกับโรคข้อเข่าเสื่อม
การรักษาโรคเข่าเสื่อม
สามารถแบ่งเป็นการรักษาที่ไม่ต้องผ่าตัดและการรักษาที่ต้องผ่าตัด การรักษาเบื้องต้นเริ่มต้นด้วยวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัดและไม่หายอาจต้องรักษาทางการผ่าตัดในที่สุด ในปัจจุบันวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัดอาจไม่ได้มีผลลัพธ์แบบหายขาด แต่ก็มีหลากหลายวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัดที่ใช้ในการรักษาโรคเข่าเสื่อมได้ด้วยตนเอง อาจเป็นวิธีที่ไม่ได้รักษาโรคข้อเสื่อม ปวดข่า จากต้นเหตุ แต่อาจลดความปวดและความพิการได้ในระดับหนึ่ง
ตัวเลือกการรักษาที่ไม่ใช่การผ่าตัด
- การปรับเปลี่ยนกิจกรรมการใช้ข้อเข่า
- กายภาพบำบัด เสริมสร้างกล้ามเนื้อ
- ลดน้ำหนัก ลดแรงกดดันลงมาที่ข้อเข่า
- การสวมอุปกรณ์รักษาเข่า
- ยาต้านการอักเสบ
การรักษา อาการหัวเข่าเสื่อม ที่ The Ozone Wellness Clinic
“การลดน้ำหนักมีความสำคัญทุกระยะของโรคข้อเข่าอักเสบ”
สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการข้อเข่าอักเสบและมีดัชนีมวลกายมากกว่า 25 ขึ้นไป คำแนะนำที่ดีที่สุดเพื่อลดน้ำหนักลง คือการควบคุมอาหาร และออกกำลังกายแบบไม่ใช่แรงกระแทก
การรักษาด้วย เกล็ดเลือดตัวเอง ฟื้นฟูด้วยพลาสม่าจากเกล็ดเลือดของตัวเอง
ช่วยฟื้นฟูข้อเข่าจากอาการปวดเข่าของโรคเข่าเสื่อม โดยฉีดกลับเข้าไปข้อเข่าด้วยเข็มที่เล็กที่สุด เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการบาดเจ็บของหมอนรองกระดูกข้อเข่า ข้อเข่าอักเสบ ลดอาการปวด เสียงดังในเข่ามีอาการบาดเจ็บและความเสื่อมของเส้นเอ็น เช่น Tennis elbow และ Golfer elbow
สำหรับผู้ป่วยที่เคยรักษาด้วยวิธีกายภาพบำบัด กินยาหรือฉีดสเตียรอยด์มาแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น การฉีดใช้เกล็ดเลือดตัวเอง ฟื้นฟูข้อเข่า จะช่วยลดความเสื่อมและทำให้ข้อเข่ากลับมามีสุขภาพดีได้อีกครั้ง ทั้งนี้ การรรักษาต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เฉพาะทาง และผลการรักษาจะแตกต่างกันในแต่ละบุคคล
ขั้นตอนการสกัดเกล็ดเลือด
- เริ่มเก็บเลือดจากร่างกาย
- สกัดแยกเกล็ดเลือดและพลาสม่า
- นำพลาสม่าที่สกัดออกมาแล้ว ฉีดรักษาฟื้นฟูบริเวณเข่าเสื่อม
- ประเมินอาการของร่างกายโดยแพทย์ ดูว่ากลับมาเดินได้ใกล้เคียงปกติหรือไม่
ปัญหาและภาวะที่ซับซ้อน ของโรคเข่าเสื่อม เป็นโรคที่เกิดจากกระบวนการสลายของกระดูกและมวลสาร (Collagen, Proteoglycans, Chondrocytes และน้ำ) ตามความเสื่อมของร่างกาย โดยทั่วไปแล้วจะทำให้เกิดความเจ็บปวดเป็นโรคเรื้อรัง ปัญหาของการเจ็บปวดและความตึงตัวของข้อเข่า สามารถกลายเป็นโรคที่ส่งผลต่อสุขภาพอย่างรุนแรงพอที่จะทำให้กิจกรรมในชีวิตประจำวันกลายเป็นเรื่องที่ยากลำบาก การเสื่อมสภาพของข้อเข่าและปัญหาด้านการนอนหลับสามารถเกิดขึ้นจากความเจ็บปวดและความเครียด
The Ozone Wellness พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลปัญหาข้อเข่าพังทลายทุกระยะ ด้วยการรักษาแบบองค์รวมผสมผสาน ดูแลโดยแพทย์เฉพาะทางกระดูกและข้อ และทีมนักกายภาพบำบัดวิชาชีพ ที่มีประสบการณ์
แนวทางการดูแลสมัยใหม่ ไม่ใช้ยา
หากพบว่ามีอาการปวดหัวเข่า เข่าอักเสบ หรือเข่าบวมแดง อย่างรุนแรง ควรรีบพบแพทย์เฉพาะทาง ที่ The Ozone Wellness เพื่อรับการวินิจฉัยทางการแพทย์ที่ถูกต้อง โดยแนวทางการรักษาที่ทันสมัยและนิยมในปัจจุบัน มีดังนี้
ใช้เครื่องมือทางการแพทย์บรรเทาปวด HPL เป็นอีกเครื่องมือที่เข้ามาช่วยให้การรักษาเกิดการฟื้นฟูอาการปวดข้อได้อย่างดีเยี่ยม เลเซอร์นี้สามารถทะลุผ่านผิวหนังลงลึกสู่ตำแหน่งของโรคได้อย่างแม่นยำทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีของเนื้อเยื่อ (Photochemical Effect) หลั่งสารที่ช่วยลดอาการปวดได้เป็นอย่างดีโดยไม่ต้องทานยา และไม่ต้องพักฟื้น
ใช้พลังงานคลื่นสนามแม่เหล็กไฟฟ้า PMS ในการกระตุ้นการสร้างกระแสไฟฟ้าในเนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อของบริเวณหัวเข่า ซึ่งเป็นประโยชน์ในการรักษา บรรเทา อาการปวดหัวเข่า ช่วยกู้คืนสมรรถภาพหลังอาการบาดเจ็บบริเวณเข่าได้อีกครั้ง
ใช้พลาสม่าจากตัวเอง หรือ ฉีดเกล็ดเลือดจากตัวเอง ในการรักษา หากมีอาการปวดรุนแรง หรือแพทย์เฉพาะทางตรวจพบอาการเสื่อม เป็นการรักษาที่ปลอดภัย ผลข้างเคียงต่ำ เพราะว่าสกัดมาจากตัวเอง การใช้เกล็ดเลือดจากตัวเองจะได้ Growth Factor ออกมา จะช่วยกระตุ้นเซลล์มาซ่อมเซลล์ที่เสื่อมไป สามารถบรรเทาอาการปวดได้
Leave a reply