เข่าชา ชาหัวเข่า ถึงปลายเท้า สัญญาณอันตราย วิธีแก้ เข่าชา
อาการ ชา คืออาการที่สูญเสียความรู้สึก เนื้อเยื่อรับรู้ความรู้สึกได้ลดลง หรือน้อยลง อาจจะเกิดขึ้นได้กับเนื้อเยื่อทั่วทุกส่วนของร่างกาย แต่ส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นกับบริเวณ แขน นิ้วมือนิ้วเท้า เท้า หรืออาจจะเกิดขึ้นบริเวณ เข่า เกิดเป็นอาการ เข่าชา บางครั้งความชาสามารถเป็นได้ตั้งแต่หัวเข่าจนถึงปลายเท้าได้ มีหลายสาเหตุที่เป็นไปได้ที่จะทำให้เกิดความชาในข้อเข่า หรือ เข่าชา ในวัยรุ่น ตั้งแต่บาดเจ็บรุนแรงจนถึงโรคเรื้อรัง ในร่างกายเรามีเส้นประสาทหลายตัวที่ทำหน้าที่รับผิดชอบในการเคลื่อนไหว และการรับรู้สัมผัส อุณหภูมิ และการสั่งการอื่น ๆ ความเสียหายและการเสื่อมของเส้นประสาทเหล่านี้สามารถทำให้รู้สึกชาได้
ทำไมข้อเข่ามีความรู้สึกปวดชา
การมีความรู้สึกปวดที่ข้อเข่าไม่น่าจะทำให้เกิดความรู้สึกปวดที่เท้าได้ อย่างไรก็ตาม บางคนอาจเป็นขั้นรุนแรงจนทำให้สูญเสียความรู้สึกที่ข้อเข่าและที่เท้าได้ การปิดกั้นการไหลเวียนเลือดในสมองที่เกิดจากอาการสมองเสื่อม สามารถทำให้สูญเสียความรู้สึกทั่วร่างกาย เช่น ความรู้สึกปวดอาจเกิดขึ้นที่แขนขวา ขาขวา และเท้าขวาได้ การบาดเจ็บที่กระดูกสันหลัง เช่นจากการถูกแทง หกล้ม อาจทำให้เกิดความรู้สึกปวดชาทั่วร่างกาย
ทำไมข้อเข่ามีความรู้สึกปวดในตอนเช้า
ความรู้สึกปวดที่ข้อเข่าในตอนเช้า อาจเกิดจากท่านอนที่มีผลต่อเส้นประสาทที่ข้อเข่า การทำงานของเส้นประสาทได้รับผลกระทบจากการบีบกด ไม่ว่าจะเป็นจากความผิดปกติภายใน เช่น เนื้องอก หรือจากปัจจัยภายนอก เช่น ท่านอนหรือเสื้อผ้า และเข็มขัดที่รัดแน่น
ทำไมข้อเข่ามีความรู้สึกปวดและตึง
ความรู้สึกปวดและมีความรู้สึกตึง ๆ เป็นสัญญาณที่พบบ่อยเมื่อมีความเสียหายต่อเส้นประสาท คือปัญหาที่เกี่ยวกับเส้นประสาทใหญ่ เส้นประสาทที่ใหญ่ที่ของข้อเข่าสามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการสัมผัสที่ข้อเข่า รวมทั้งการมีความรู้สึกปวดและมีความรู้สึกตึง ๆ ชา ๆ การทำลายเส้นประสาทสามารถเกิดจากการบีบกด โรคเบาหวาน การบาดเจ็บ หรือโรคข้ออักเสบ
หัวเข่าชา เกิดจาก สาเหตุใดบ้าง
ความรู้สึกในข้อเข่า หรือความรู้สึกที่ส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย รวมถึงความสามารถในการรับรู้การแตะเบา ๆ อุณหภูมิ การสั่นสะเทือน และความเจ็บปวด สัญญาณเหล่านี้จะถูกส่งไปที่ระบบประสาท สัญญาณจากข้อเข่าถูกส่งด้วยระบบประสาท ปัญหาหรือการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นที่จุดใดจุดหนึ่งของข้อเข่า สามารถทำให้รู้สึกชาหัวเข่าได้
สาเหตุของความปวด ชา บริเวณเข่า ความรู้สึกชานั้นมักเกิดจากปัญหาที่เกิดขึ้นในระบบประสาท เช่น ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเส้นประสาท อย่างไรก็ตามการรู้สึกชาใด ๆ ก็มีความซับซ้อน และสามารถถูกทำใช้ชาด้วยสาเหตุที่ไม่ได้เกิดจากการบาดเจ็บ หรืออุบัติเหตุโดยตรง
แรงบีบจากด้านนอก
เข่าชาข้างเดียว เกิดจากอะไร บางครั้งแรงกดจากภายนอกที่กดมาที่ขาและหัวเข่า อาจทำให้มีความรู้สึกขาล้าหรือชาได้ เช่น การสวมเสื้อผ้าที่คับแน่น การรัดเข่าหรือมีสายรัดแน่นที่ต้นขา
หากสวมเสื้อผ้าแน่นเกินไปและทำให้การไหลเวียนเลือดของเราหยุดลงหรือกดทับเส้นประสาทผิวหนัง เราทุกคนสามารถรู้สึกมีอาการชาได้
เราสามารถรู้สึกชาหัวเข่าชั่วขณะ เช่น ในการนอนนาน ๆ อาจกดทับที่เส้นประสาท แม้แต่การใช้งานขานานเกินไปก็สามารถทำให้หัวเข่ารู้สึกชาได้
การบาดเจ็บ
การบาดเจ็บที่เกิดขึ้นทันทีที่หัวเข่า ขา และด้านหลังของหัวเข่า สามารถทำให้เกิดอาการชาทุกตำแหน่งของหัวเข่าได้ทั้งหมด
ตัวอย่างเช่น บาดเจ็บที่เกิดที่เส้นเอซีแอล (ACL) หรือ Anterior Cruciate Ligament ที่เรียกว่า เอ็นไขว้หน้า เป็นหนึ่งในเอ็นหลักของเข่า อยู่บริเวณส่วนกลางของข้อเข่า ช่วยรักษาความมั่นคงของข้อเข่าในการเคลื่อนไหว หากเส้นเอ็นนี้เกิดการบาดเจ็บ สามารถทำให้เกิดการบวมและการอักเสบซึ่งทำให้เกิดความชาในหัวเข่า
ข้อเข่าอักเสบ
ข้ออักเสบเป็นสภาวะที่ทำให้เกิดการอักเสบและบวมในข้อต่อ เป็นปัจจัยที่มีผลมากที่สุดต่อปัญหาข้อเข่าเสื่อม เนื่องจากเข่าถูกใช้งานหนักจากการทำกิจวัตรประจำวันและการออกกำลังกาย
บางคนที่มีข้ออักเสบมีการรับรู้และการสัมผัสที่เปลี่ยนแปลงไป นอกจากความเจ็บปวดแล้ว ทุกคนสามารถรู้สึกชาจากระบบรับรู้การสัมผัสที่เปลี่ยนแปลงไป
โรคเส้นประสาทเสื่อมจากเบาหวาน
การเป็นเบาหวานสามารถทำให้เกิดความเสียหายต่อเส้นประสาทส่วนปลาย ในผู้ป่วยเบาหวานหลายคนได้รับผลกระทบต่อระบบประสาทของเท้าและขา อาการของโรคเส้นประสาทเสื่อมในผู้ป่วยเบาหวานมักเริ่มต้นที่ปลายเท้า รวมถึงความรู้สึกชา ความอ่อนแรง และความเจ็บปวด บางครั้งอาการเหล่านี้อาจขยายไปถึงเข่าในบางคน
โรคเส้นประสาทเบาหวาน เป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเส้นใยประสาทในส่วนปลายของร่างกายจากการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำตาลในเลือดที่ผิดปกติ ผู้ที่เป็นเบาหวานมีความเสี่ยงต่อโรคเส้นประสาทเบาหวาน โดยเฉพาะถ้าคนนั้นอ้วนหรือสูบบุหรี่
อาการโดยรวมมีทั้งความเจ็บปวด ชา และรู้สึกถึงความร้อนในมือ แขน เท้า และขา มีการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อ สูญเสียสมดุลประสาททางกล้ามเนื้อ และการติดเชื้อ และอาจมีความเจ็บปวดในกระดูกและข้อเท้า
โรคเส้นประสาทเบาหวานสามารถพัฒนาให้เกิดอาการร้ายแรงอื่น ๆ ได้อีก เนื่องจากระดับน้ำตาลในเลือดสูง ติดเชื้อง่าย ทำให้เกิดแผล และการตัดตัดขา ดังนั้น อาการของโรคเส้นประสาทเบาหวานถือว่าเป็นอาการฉุกเฉินทางการแพทย์และควรพบแพทย์โดยเร็วที่สุด
การวินิจฉัยทำได้ผ่านการทดสอบความไวต่อสารต่าง ๆ และศึกษาการนำไฟฟ้าของระบบประสาท
ไม่มีทางรักษาโรคเส้นประสาทเบาหวานได้เลย แต่สามารถจัดการกับอาหารการกิน กินอาหารเพื่อสุขภาพเพื่อช่วยลดความเร็วของการเกิดโรคร้ายต่าง ๆ และรวมถึงการปรับปรุงพฤติกรรมการดำเนินชีวิตและการใช้ยาแก้ปวด
โรค Fibromyalgia
เป็นโรคที่ทำให้กล้ามเนื้อเจ็บปวดและรู้สึกอ่อนเพลียโดยไม่ทราบสาเหตุ อาจจะไม่ทำลายข้อต่อเหมือน โรคข้ออักเสบ แต่สามารถทำให้เกิดอาการที่คล้ายกัน เช่น เจ็บปวดและรู้สึกอาการชาชั่วคราว
บางคนที่เป็นโรค Fibromyalgia มีจุดอ่อนบางที่ในร่างกายที่อาจรู้สึกเจ็บปวด หรือมีความชาและไม่ตอบสนองต่อการสัมผัส หัวเข่าเป็นหนึ่งในพื้นที่เสี่ยงที่จะเป็นอาการเหล่านี้
กระดูกสันหลังอักเสบ
กระดูกสันหลังอักเสบ คือการอักเสบหนึ่งที่อาจส่งผลต่อเส้นประสาทที่กระดูกสันหลัง ร่องกระดูกสันหลังที่แคบลง หรือตำแหน่งกระดูกสันหลังที่อยู่ไม่ตรงที่ หรือโรคข้ออักเสบที่เป็นสาเหตุของกระดูกสันหลังอักเสบ
สันหลังหรือกระดูกสันหลังมีหน้าที่ปกป้องไขสันหลังและช่วยให้คนสามารถยืนและเดินได้ การเคลื่อนของกระดูกสันหลังอาจทำให้กระดูกสันหลังแคบลง การแคบนี้ทำให้มีแรงกดทับที่เส้นประสาทและไขสันหลัง และอาจทำให้เกิดอาการปวดชา
เส้นประสาทจากสันหลังสามารถวิ่งลงมาที่ขาได้ ความเป็นไปได้ที่การอักเสบในบริเวณหลังสามารถทำให้มีความรู้สึกชาลงมาที่ขาด้วย ใช้ชีวิตลำบากขึ้น บางครั้งพบว่าขาของเราเริ่มมีความอ่อนแรงตามมาด้วย
แพทย์อาจแนะนำการตรวจเพิ่มเติมซึ่งรวมถึงการฉายรังสีดูกระดูกสันหลัง การรักษาอาจรวมถึงการให้ยา การกายภาพบำบัด หรือการใส่ที่รัด สำหรับกรณีรุนแรงอาจถึงขั้นต้องทำการผ่าตัดบางครั้ง
การผ่าตัดเข่า
ผู้ป่วยบางคนที่ได้รับการผ่าตัดข้อเข่า อาจมีอาการชาของเข่าได้ด้วย การวิจัยระบุว่า ส่วนใหญ่ของผู้ที่มีอาการ เข่าชา ที่เกิดจากการผ่าตัด จะเกิดขึ้นที่ส่วนนอกของเข่า
เข่าชากับความผิดปกติของระบบประสาท
ปัญหาที่เกี่ยวกับเส้นประสาทส่วนปลาย อาจทำให้เกิดความชาตามเข่า สาเหตุอาจเกิดจากการบาดเจ็บโดยตรง ตัวอย่างเช่น การรู้สึกชาในข้อเข่าเป็นภาวะของเส้นประสาทเสื่อม นอกจากนี้ เส้นประสาทขายังสามารถได้รับผลกระทบจากการบีบตัวที่เกิดจากความผิดปกติทางกาย การวางตำแหน่งขาในระหว่างการผ่าตัด หรือเสื้อผ้าที่ใส่แน่นเกินไป ในกรณีที่มีความผิดปกติในการทำงานของเส้นประสาทขาจะเกิดขึ้นมากขึ้นก็มักจะมาจากโรคเบาหวานขั้นรุนแรง ที่ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลได้
โรคข้ออักเสบ สามารถทำให้เกิดความผิดปกติในตัวรับรู้ของเข่า ทำให้เกิดการรู้สึกที่ผิดปกติรวมถึงความชา มีเสียง หรืออาการเจ็บปวด
เมื่อเส้นประสาทถูกทำลาย
เส้นประสาทของส่วนล่างของร่างกายมีที่มาจากเส้นประสาทจากไขสันหลัง เส้นประสาทที่รับสัญญาณจากเข่าสามารถทำให้เกิดความชาพร้อมกับความผิดปกติในระบบรับรสอื่น ๆ มักมีการเสื่อมสภาพที่เกิดจากโรคข้ออักเสบ
ไขสันหลังเสื่อม สามารถทำให้เกิดความสูญเสียความรู้สึกรวมถึงเข่าด้วย เมื่อไขสันหลังถูกทำลายจะสูญเสียการเคลื่อนไหวของร่างกายข้างเดียวหรือเป็นทั้งสองข้างตามความรุนแรงของไขสันหลัง
เซลล์สมองเสื่อมหรืออัมพฤกษ์ หัวเข่าชา ถึงปลายเท้า
สามารถเกิดขึ้นได้เนื่องจากเส้นประสาททางสมองถูกทำลาย อาจร้ายแรงถึงขั้นเป็นอัมพฤกษ์ (เนื้อสมองที่เสื่อมจากการขาดการไหลเวียนเลือด) ทำให้สูญเสียความรู้สึกที่เข่าได้ด้วย
ภาวะภูมิคุ้มกันที่ถูกกระตุ้นโดยการติดเชื้อ
ทำให้เกิดความเสียหายในเส้นประสาทในร่างกายที่ควบคุมกล้ามเนื้อ นำไปสู่อาการอ่อนแรง โดยทั่วไปจะเริ่มต้นเป็นที่ขาแล้วค่อย ๆ ไปที่แขน
ความเสียหายในเส้นประสาทสามารถทำให้เราไม่สามารถควบคุมหัวใจและปอดของเราได้ หรืออาจต้องถูกนำตัวเข้าโรงพยาบาล
การรักษา หัวเข่าชา ในเบื้องต้น
การรักษาอาการชาขา ชาหัวเข่า ต้องขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการนี้ ปกติแล้วแพทย์มักจะมุ่งเน้นในการรักษาด้วยวิธีที่อ่อนโยนต่อข้อต่อก่อนเสมอ หลังจากนั้นหากอาการยังไม่ดีขึ้นจะแนะนำวิธีการผ่าตัดหากผู้ป่วยต้องการ
เคล็ดลับ วิธีแก้ เข่าชา ลดการอักเสบ
- การทายาต้านการอักเสบเช่น ไอบูโปรเฟน (Advil) หรือแนปโรเก็กซินโซเดียม (Aleve)
- การวางประคบน้ำแข็งบนเข่าด้วยผ้าคลุม ประมาณ 10 นาที
- การยกขาขึ้นเพื่อส่งเสริมการไหลเวียนเลือดกลับสู่หัวใจและลดอาการบวม
- การพักการใช้งานข้อเข่าที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะถ้ามีการบวมที่มองเห็นได้
นอกจากการดูแลอาการชาที่บ้านแล้ว แพทย์อาจสั่งยาบางชนิดขึ้นอยู่กับสภาพการป่วยของแต่ละคน ตัวอย่างเช่น แพทย์อาจสั่งยาเพื่อปรับปรุงระบบประสาทในผู้ป่วย โรค Fibromyalgia และโรคปลายประสาทเบาหวาน ยาเหล่านี้อาจรวมถึง gabapentin (Neurontin) และ pregabalin (Lyrica)
การบรรเทาอาการและการป้องกัน
เพื่อป้องกันอาการ ชาหัวเข่า ถึงปลายเท้า และอาการที่เกี่ยวข้องกับปัญหาข้อต่อ
- หลีกเลี่ยงการงอเข่านานเป็นเวลานาน หรือคนที่นั่งโต๊ะทำงานาน ๆ แนะนำให้ยกเท้าขึ้นพาดไว้บนเก้าอี้หรือที่รองเท้าบ้าง
- หลีกเลี่ยงการสวมเสื้อผ้าที่คับแน่น เช่น ถุงเท้าขนาดเล็ก รองเท้าขนาดเล็ก กางเกงบางประเภทที่ยืดหยุ่นและรัดขา และควรหลีกเลี่ยงการสวมถุงน่องที่มีความคับแน่นเกินไป
หากเราสวมอุปกรณ์ยึดข้อเข่าและมีความรู้สึกคับน้อย ควรพูดคุยกับแพทย์ เพื่อเลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสม
การรักษาร่างกายให้มีน้ำหนักสมส่วน จะช่วยรักษาสุขภาพเข่าได้ยาวนาน เพราะข้อเข่าต้องรับน้ำหนักตัวไปตลอดชีวิต หากน้ำหนักตัวเกินอาจเกิดการอักเสบ
หากมีปัญหาเรื่องการเจ็บปวดและความรู้สึกชาเล็กน้อยที่เข่า ลองออกกำลังกายในสระว่ายน้ำ น้ำ จะช่วยลดความกดันของน้ำหนักที่ข้อต่อ และยังช่วยให้เราเผาผลาญพลังงานส่วนเกินได้ด้วย
หากเป็นโรคเบาหวาน การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดสามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเสื่อมลงของเส้นประสาท แพทย์อาจต้องปรับการให้ยาหากระดับน้ำตาลในเลือดของเราสูงอยู่เสมอ ๆ
ต้องรักษาอย่างเร่งด่วน เมื่อมีอาการรุนแรง
โรคนี้เกิดขึ้นเมื่อมีการบีบตัวของเส้นประสาทที่หลังจนไปทำให้คนนั้นรู้สึกชาและมีความรู้สึกผิดปกติมากในขา บางครั้งผู้ป่วยอาจมีปัญหาการควบคุมการถ่ายอุจจาระและปัสสาวะด้วย อาจต้องมีการผ่าตัดเพื่อลดความดันที่มีต่อเส้นประสาทก่อนที่จะเกิดความเสียหายถาวร
โรคหลอดเลือดสมอง
Stroke คือโรคหลอดเลือดสมอง อาจทำให้เกิดความชาของข้อเข่า ถึงแม้จะเป็นอาการที่หาได้ยากในกรณีของโรคหลอดเลือดสมอง แต่มีโอกาสที่เราสามารถรับรู้ถึงความชาในข้อเข่าและขาได้ อาจรวมถึงการชาของใบหน้า และการเคลื่อนไหวร่างกายที่ลำบากมากขึ้น
โรคหลอดเลือดสมองหรือที่เรียกว่า “Stroke” เกิดขึ้นเมื่อสมองไม่ได้รับการไหลเวียนเลือดเพียงพอ หากเราหรือใครบางคนรอบข้างกำลังประสบกับอาการของโรคหลอดเลือดสมองต้องรีบพบแพทย์ทันที
การบาดเจ็บที่มีผลต่อข้อเข่า
การเจ็บปวดข้อเข่าที่มีอาการชาหรือความรู้สึกผิดปกติอาจเป็นผลมาจากการบาดเจ็บจากกิจกรรม หรืออุบัติเหตุ หากเราได้รับบาดเจ็บล่าสุดและมีอาการสูญเสียความรู้สึก ปวดระคายเคือง หรือเจ็บในข้อเข่า ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ถ้าอยากทราบว่า ชาเข่า ปวดเข่า เข่าอักเสบ เกิดจากอะไร มาปรึกษาแพทย์ที่เฉพาะทางที่ประสบการณ์ เรื่องข้อเข่าที่ The Ozone Wellness ใกล้บ้าน ยิ่งมีอาการชาที่มีผลต่อการเคลื่อนไหว และมีผลต่อกิจวัตรประจำวัน ควรมาปรึกษาแพทย์ให้เร็วที่สุดเพื่อที่แพทย์จะรักษาได้ทัน ด้วยนวัตกรรมการรักษาข้อเข่าที่ทันสมัย
แนวทางการดูแลหากมีอาการ
หากพบว่ามีอาการชา ปวดหัวเข่า เข่าอักเสบ หรือเข่าบวมแดง อย่างรุนแรง แพทย์เฉพาะทางอาจพิจารณาแนวทางการรักษาด้านการแพทย์ ที่แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ซึ่งแนวทางการรักษา ฟื้นฟู ที่เป็นไปได้ มีดังนี้
- รับประทานยาแก้ปวด หรือ ยาแก้อักเสบ ตามความเหมาะสม สามารถลดอาการปวดได้ทันที แต่เห็นผลอยู่ได้ในระยะสั้น ต้องรับประทานยาต่อเนื่อง หรือต้องรับประทานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และอาจจะมีผลข้างเคียงที่รุนแรงตามมา
- ฉีดยาสเตียรอยด์ มักใช้ในกรณีที่มีอาการปวด หรืออักเสบ เกิดขึ้นแบบฉับพลัน หรือในรายที่ไม่ตอบสนองต่อการรับประทานยา โดยจะช่วยลดอาการอักเสบบวมแดง ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งการใช้สเตียรอยด์ต้องใช้กรณีที่จำเป็นเท่านั้น และแพทย์พิจารณาอย่างละเอียดเป็นรายกรณีไป
- ฉีดเซลล์จากตัวเอง เพื่อนำเซลล์ที่มีความเข้มข้นสูงกว่าระดับปกติ ที่ได้มาจากการสกัดแยกด้วยกรรมวิธีทางการแพทย์ ฉีดกลับไปบริเวณที่ต้องการรักษาหรือฟื้นฟู โดยเฉพาะบริเวณเข่าที่มีปัญหา
- ทำกายภาพบำบัด โดยนักกายภาพบำบัดวิชาชีพ เป็นวิธีการรักษาหรือบรรเทาอาการปวดหัวเข่าด้วยการเน้นไปที่การบริหารกล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้า และด้านหลัง เพื่อช่วยให้สามารถพยุงน้ำหนักของตัวเองได้มากขึ้น ช่วยเสริมสร้าง ฟื้นฟูกล้ามเนื้อหัวเข่าให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น และยังช่วยป้องกันอาการปวดในระยะยาวได้อีกด้วย
- ใช้เครื่องมือทางการแพทย์บรรเทาปวด HPL เป็นอีกเครื่องมือที่เข้ามาช่วยให้การรักษาเกิดประสิทธิสูง ประสิทธิผลชัดเจน เห็นผลดีและสะดวกสบายมากขึ้น เลเซอร์นี้สามารถทะลุทะลวงผ่านผิวหนังลงลึกสู่ตำแหน่งของโรคได้อย่างแม่นยำทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีของเนื้อเยื่อ (Photochemical Effect) หลั่งสารที่ช่วยลดอาการปวดได้เป็นอย่างดีโดยไม่ต้องทานยาสามารถกระตุ้นเซลล์เพื่อใช้ในการซ่อมตัวเองในระยะยาวต่อไป
- ใช้พลังงานคลื่นสนามแม่เหล็กไฟฟ้า PMS ในการกระตุ้นการสร้างกระแสไฟฟ้าในเนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อของบริเวณหัวเข่าได้ ซึ่งสามารถเป็นประโยชน์ในการรักษา บรรเทา อาการปวดหัวเข่า และกู้คืนสมรรถภาพหลังอาการบาดเจ็บบริเวณเข่าได้
Leave a reply