อาการ ปวดหัวเข่าข้างขวา วิธีรักษา ปวดเข่า ไม่ต้องผ่าตัด

ปวดเข่า ปวดหัวเข่าข้างขวา อาการ ที่เป็นปัญหาพบได้บ่อยที่สุดที่มีผลกระทบต่อคนทุกวัย อาการปวดเข่า อาจเกิดจากการบาดเจ็บ เช่น มีการรัดเส้นเอ็นหรือข้อเข่าแตก รวมถึงข้ออักเสบ โรคเก๊าต์ และการติดเชื้อก็สามารถทำให้เกิดอาการปวดเข่าได้

มีหลายประเภทของอาการปวดเข่าที่เป็นในระดับนเบาที่เราสามารถดูแลด้วยตนเองได้ กิจกรรมทางกายภาพยังช่วยลดอาการปวดได้ ในบางกรณี เข่าของเราอาจต้องการการซ่อมแซมด้วยผ่าตัดหากมีอาการรุนแรงและรักษามาทุกวิธีก็ยังไม่หาย

ปวดเข่า เป็นอาการที่พบมากในผู้ใหญ่และมักเกี่ยวข้องกับการสึกหรอจากกิจกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น เดิน งอตัว ยืน และยกของ นอกจากนี้ นักกีฬาที่วิ่งหรือเล่นกีฬาที่เกี่ยวข้องกับการกระโดดหรือเคลื่อนไหวรวดเร็วมักมีโอกาสมากขึ้นที่จะเจอปัญหาและอาการปวดเข่า อาการผิดปกติของข้อเข่าแต่ละคนจะเกิดขึ้นจากการเสื่อมสภาพของข้อหรือจากการบาดเจ็บ สามารถก่อให้เกิดความรำคาญใจและไม่สามารถทำกิจกรรมปกติได้ในบางกรณี

รู้จักหัวเข่า

ข้อเข่าเป็นข้อต่อที่อ่อนแอซึ่งต้องรับแรงจากกิจกรรมประจำวัน เช่น ยกของหนักและก้มตัว รวมถึงกิจกรรมที่มีแรงกระแทกสูง เช่น วิ่ง และกระโดด

ส่วนประกอบของหัวเข่า

ข้อเข่าเกิดจากส่วนประกอบต่อไปนี้

  1. กระดูกแข้ง หรือ กระดูกทิเบีย เรียกว่า Tibia
  2. ส่วนปลายกระดูกต้นขา เรียกว่า Femur
  3. กระดูกสะบ้า หรือ สะบ้าหัวเข่า เรียกว่า Patella

ส่วนปลายของแต่ละกระดูกจะมีชั้นกระดูกดูดซับแรงกระแทกและป้องกันข้อเข่า โดยพื้นฐานแล้ว ข้อเข่าคือ ส่วนปลายของต้นขาและหน้าแข้งที่ถูกเชื่อมต่อกันด้วยกล้ามเนื้อ ข้อเข่ามีทั้งกล้ามเนื้อ และเส้นเอ็นที่ช่วยในการยึดเหนี่ยวและควบคุมการเคลื่อนไหว

มีกลุ่มกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับข้อเข่า 2 กลุ่ม ได้แก่ กล้ามเนื้อที่อยู่ด้านหน้าขา ซึ่งทำให้ขาเรียบตรง และกล้ามเนื้อแฮมสตริงที่อยู่ด้านหลังของขา ซึ่งช่วยทำให้ข้อเข่างอได้

เส้นเอ็นที่เชื่อมต่อกล้ามเนื้อกับกระดูก คือเส้นเอ็นยืดหยุ่นที่เชื่อมต่อกระดูกต่าง ๆ ในข้อเข่าจะช่วยในการรักษาความมั่นคงและปกป้องข้อต่อ ในขณะที่เส้นเอ็นบางตัวจะจำกัดการเคลื่อนไหวไปมาของข้อเข่า

อาการปวดหัวเข่า

ความรุนแรงของอาการปวดเข่าอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสาเหตุของปัญหานั้น ๆ อาการและอาการร่วมที่บ่งบอกถึงการปวดเข่าบางครั้งสามารถเกิดขึ้นได้ 5 แบบ ดังนี้

  • บวมและตึงตัว
  • แดงและอุ่นเมื่อเอามือสัมผัส
  • ความอ่อนแรงหรือความไม่มั่นคง
  • เสียงดังหรือเสียงดังลั่นเวลางอเข่า
  •  ไม่สามารถเหยียดขาหัวเข่าได้อย่างเต็มที่

6 อาการปวดเข่า ที่ควรพบแพทย์

  • ไม่สามารถทรงตัวยืนหนึ่งขาได้ หรือรู้สึกว่าเข่าไม่แน่นหนาพอที่จะรับน้ำหนัก
  • มีอาการบวมที่เข่าอย่างมีนัยสำคัญ
  •  ไม่สามารถเหยียดขาหรืองอเข่าได้ทั้งหมด
  • เห็นการผิดรูปที่ชัดเจนที่ขาหรือเข่า
  • มีไข้ ร่วมกับการแดง ปวด และบวมที่เข่า
  • มีความเจ็บปวดที่รุนแรงที่เข่า ที่เกี่ยวข้องกับการบาดเจ็บ
อาการปวดหัวเข่า

การบาดเจ็บที่ส่งผลต่อข้อเข่า

การบาดเจ็บข้อเข่าสามารถกระทบถึงเส้นเอ็น เส้นเอ็นหรือถุงน้ำ (Bursae) ที่เต็มไปด้วยของเหลวที่ล้อมรอบข้อเข่าของเรารวมทั้งกระดูก เนื้อเยื่อมีปัญหาและเส้นเอ็นที่เป็นข้อต่ออาจบาดเจ็บที่ส่งผลต่อข้อเข่า

บาดเจ็บ ACL หรือเอ็นไขว้หน้า
เส้นเอ็นไขว้หน้า (ACL) เป็นหนึ่งในสี่เส้นเอ็นที่เชื่อมโยงกระดูกต้นขา การบาดเจ็บ ACL เป็นอาการที่พบมากในผู้เล่นบาสเกตบอล ฟุตบอลหรือกีฬาอื่น ๆ ที่ต้องเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว

การบาดเจ็บกระดูกสะบ้า
สามารถเกิดการแตกได้ในระหว่างการล้มหรืออุบัติเหตุรถยนต์ นอกจากนี้บางคนที่ได้รับบาดเจ็บข้อเข่าจากการกระทำต่อข้อเข่าแบบไม่ถูกต้อง เช่น พฤติกรรมการวิ่งที่ผิดไปจากกลไกการเคลื่อนไหว

เส้นเอ็นหรือถุงน้ำแตก
เส้นเอ็นหรือถุงน้ำคือเยื่อเนื้อหนาที่ทำหน้าที่ในการรับแรง สามารถแตกได้หากเราหันข้อเข่าอย่างรวดเร็วขณะที่น้ำหนักกำลังส่งลงมาที่เข่า

ข้อเข่าอักเสบ
บางอาการบาดเจ็บของข้อเข่าทำให้มีอาการอักเสบในถุงน้ำ ซึ่งถุงน้ำขนาดเล็กที่เต็มไปด้วยของเหลวที่ทำหน้าที่รับแรงกดของข้อเข่าเพื่อให้เส้นเอ็นและการเคลื่อนไหวราบรื่นมากขึ้น

เส้นเอ็นพลิกอักเสบ
เส้นเอ็นพลิกทำให้มีการระคายเคืองและอักเสบของเอ็นหนึ่งเส้นหรือมากกว่า การอักเสบนี้สามารถเกิดขึ้นเมื่อมีการบาดเจ็บของเอ็นหัวเข่า ซึ่งเริ่มจากหัวเข่าไปยังต้นขา และไม่สามารถทำให้เราเตะ วิ่ง และกระโดดได้เลย โดยเฉพาะ นักวิ่ง นักสกี นักปั่นจักรยาน และผู้ที่เกี่ยวข้องกับกีฬากระโดดและกิจกรรมอื่น ๆ อาจเร่งให้เกิดการอักเสบขึ้นไปอีก

ปัญหาจากกลไก การเคลื่อนไหวของเข่า

ตัวอย่างบางประการของปัญหาทางกลไกที่สามารถทำให้เกิดเจ็บหัวเข่าได้

กระดูกสลาย (Loose Body)
บางครั้งการบาดเจ็บหรือการสลายของกระดูกหรือเนื้อเยื่อกระดูกอาจทำให้เกิดการหักหรือชิ้นเนื้อเยื่อกระดูกที่หลุดออกมาลอยอยู่ในช่องข้อต่อ สภาพนี้อาจไม่ทำให้เกิดปัญหาใด ๆ นอกจากกรณีที่วัตถุลอยอยู่รบกวนการเคลื่อนไหวของข้อต่อเข่า ในกรณีนี้ผลกระทบจะเหมือนกับดินสอติดอยู่ในช่องประตูทำให้ประตูปิดหรือเปิดลำบาก

โรคเอ็นต้นขาด้านข้างอักเสบ (Iliotibial Band Syndrome)
เกิดขึ้นเมื่อเนื้อเยื่อที่แข็งแรงเริ่มขยายตั้งแต่ด้านนอกของสะโพกไปยังด้านนอกของเข่า กลายเป็นแน่นมากขึ้นจนเกิดการตึงบริเวณด้านนอกของต้นเข่า มักเกิดกับนักวิ่งระยะยาว และนักปั่นจักรยาน มีความเสี่ยงมากต่อการเป็นโรคเอ็นต้นขาด้านข้างอักเสบ

กระดูกหัก (Dislocated Kneecap)
เกิดขึ้นเมื่อกระดูกที่ครอบด้านหน้าของเข่า (patella) เคลื่อนออกจากตำแหน่งเดิม โดยมักจะเลื่อนไปทางด้านนอกของเข่า ในบางกรณีกระดูกอาจยังคงอยู่ในท่าทางที่ผิดและมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

เจ็บข้อสะโพกหรือเท้า (Hip or Foot Pain)
หากเรามีเจ็บในข้อสะโพกหรือเท้า เราอาจเปลี่ยนวิธีการเดินเพื่อหลีกเลี่ยงการย้ำข้อต่อที่เจ็บ แต่การเปลี่ยนรูปแบบการเดินนี้อาจทำให้มีข้อต่อเข่าทำงานมากขึ้นและทำให้เกิดอาการเจ็บหัวเข่าได้

ปวดหัวเข่าข้างขวา

ประเภทของ โรคข้อเข่า ต่างๆ

ในความเป็นจริงอาจมีมากกว่า 100 ประเภทของโรคข้อ ที่สามารถเกิดขึ้นได้

โรคข้อเข่าเสื่อม (Osteoarthritis)
โรคข้อเข่าเสื่อมหรือโรคข้อเข่าสลายตามอายุ โรคข้อเข่าเสื่อมเป็นประเภทที่พบมากที่สุด นั่นคือสภาวะที่เกิดจากการสึกหรอจากการใช้งานที่ทำให้กระดูกเข่าลดลงเมื่อเวลาผ่านไป

โรคข้อเข่ารูมาตอยด์ (Rheumatoid arthritis)
เป็นรูปแบบที่รุนแรงที่สุดของโรคข้อ เป็นโรคภูมิคุ้มกันที่สามารถมีผลต่อข้อไหนก็ได้ในร่างกายของคุณ รวมถึงข้อเข่า ถึงแม้ว่าโรคข้อเข่ารูมาตอยด์จะเป็นโรคเรื้อรัง แต่มีความหลากหลายในความรุนแรงและอาจเกิดขึ้นและหายไปได้

โรคเกาต์ (Gout)
โรคข้อกับอาการปวดนี้เกิดขึ้นเมื่อผลึกกรดยูริกสะสมในข้อ แม้ว่าโรคเกาต์จะกระทบกับข้อนิ้วมือมากที่สุด แต่ก็สามารถเกิดขึ้นในข้อเข่าได้เช่นกัน

โรคเกาต์เทียม (Pseudogout)
คล้ายกับว่าเป็นโรคเกาต์ เกิดจากผลึกที่มีแคลเซียมสะสมในน้ำข้อ ข้อเข่าจะเป็นข้อที่มีการกระทบมากที่สุด

ภาวะการอักเสบของข้อที่เกิดจากการติดเชื้อ (Septic arthritis)
บางครั้งข้อเข่าของเราอาจติดเชื้อ ทำให้เกิดบวม ปวด และแดง ภาวะการอักเสบของข้อที่เกิดจากการติดเชื้อมักเกิดพร้อมไข้ และมักไม่มีการบาดเจ็บก่อนที่อาการปวดจะเริ่มขึ้น สามารถทำให้กระดูกเข่าเสื่อมลงได้อย่างรวดเร็ว หากคุณมีอาการปวดเข่าพร้อมกับอาการนี้ ควรพบแพทย์ทันที

ปัญหาการอาการปวด เป็นสิ่งที่พบบ่อยในนักกีฬา และในผู้ใหญ่ที่อายุมาก โดยเฉพาะบางคนที่หัวเข่าไม่สามารถวิเคราะห์สาเหตุการเกิดโรคได้ถูกจุด และในผู้สูงอายุมักจะมีอาการนี้เนื่องจากข้อเข่าอักเสบและเสื่อมตามวัย

ปัจจัยเสี่ยง ที่อาจทำให้เกิด เข่าเสื่อม ปวดเข่า

มีหลายปัจจัยที่สามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดปัญหาข้อเข่า

น้ำหนักเกิน
การมีน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน เพิ่มความเครียดและแรงกดต่อข้อเข่าของเรา แม้แต่ขณะทำกิจกรรมทั่วไปก็ส่งผลต่อการเดิน เช่น เดินหรือขึ้นลงบันได นอกจากนี้ยังเสี่ยงต่อโรคข้อกระดูกอักเสบ เนื่องจากอาการปวดหัวเข่าจะส่งเสริมกระบวนการสลายของกระดูกตามวัย

ขาดความยืดหยุ่นหรือขาดความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
การขาดความแข็งแรงและยืดหยุ่นสามารถเพิ่มความเสี่ยงในการบาดเจ็บของข้อเข่า กล้ามเนื้อที่แข็งแรงช่วยทำให้ข้อต่อมีความเสถียรและป้องกันการบาดเจ็บได้ และความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อสามารถช่วยให้คุณมีการเคลื่อนไหวได้เต็มรูปแบบ

กีฬาหรืออาชีพบางประเภท
บางกีฬาทำให้ข้อเข่าของเราได้รับความตึงเครียด มีโอกาสที่จะหกล้ม การกระโดดและหมุนตัวของบาสเกตบอล และการกระแทกซ้ำ ๆ ที่ข้อเข่าของเรา เมื่อเราวิ่งจะเพิ่มความเสี่ยงในการบาดเจ็บของข้อเข่า งานที่ต้องใช้ข้อเข่าซ้ำ ๆ ที่เสี่ยงต่อข้อเข่าอักเสบ ปวดหัวเข่าด้านข้าง เช่น งานก่อสร้างหรือการทำเกษตร ก็สามารถเพิ่มความเสี่ยงได้

การบาดเจ็บในอดีต
หากเคยได้รับบาดเจ็บข้อเข่าในอดีต ก็ทำให้เป็นไปได้มากขึ้น หากเราใช้งานข้อเข่าหนักอีกครั้ง

ภาวะแทรกซ้อน
ระหว่างการเจ็บปวดที่เกิดขึ้นที่ข้อเข่าจะมีความรุนแรงที่มาจากโรคอื่น ๆ แทรกซ้อน แต่บางอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นที่ข้อเข่า เช่น โรคข้อเข่าเสื่อม อาจทำให้เกิดความเจ็บปวดที่เพิ่มขึ้น ความเสียหายของข้อต่ออาจทำให้เกิดความพิการหากไม่รักษาให้หายทัน การมีอาการบาดเจ็บที่ข้อเข่า แม้จะเป็นการบาดเจ็บเล็กน้อยแต่เจ็บนาน ก็ไม่ควรปล่อยไว้

ปวดหัวเข่าข้างขวา รักษาได้

การป้องกัน โรคเกี่ยวกับข้อเข่า

ถึงแม้จะไม่ได้มีวิธีป้องกันความเจ็บปวดหัวเข่าได้เสมอไป แต่การทำตามคำแนะนำต่อไปนี้อาจช่วยป้องกันการบาดเจ็บและอาการทรุดต่อข้อเข่าได้

รักษาข้อต่อให้สุขภาพดี
การรักษาร่างกายให้สุขภาพดีเป็นหนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุดที่สามารถทำได้ เพื่อให้ข้อต่อของแต่ละข้อรับน้ำหนักได้เบาที่สุด ไม่ทำให้ข้อต่อเสียหายมากขึ้น เช่น การลดน้ำหนัก ทำให้ลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บและโรคข้อเสื่อม

ทำร่างกายให้แข็งแรง
เพื่อเล่นกีฬาได้ระยะยาว โดยเตรียมกล้ามเนื้อของเราให้พร้อมที่จะรับมือกับการเล่นกีฬาหนัก ๆ ให้ใช้เวลาในการฝึก Weigth Trainning
ฝึกซ้อมการออกกำลังกายอย่างถูกต้อง ทำให้แน่ใจว่าเทคนิคและแบบแผนการเคลื่อนไหวที่เราใช้ในกีฬาหรือกิจกรรมของเราเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำได้ แนะนำให้การเรียนรู้จากนักกีฬามืออาชีพอาจจะมีประโยชน์มาก ๆ สำหรับมือใหม่ทุกคน

เพิ่มพลังและรักษาความยืดหยุ่น
กล้ามเนื้ออ่อนแรงเป็นสาเหตุหลักของการบาดเจ็บข้อเข่า เราจะได้รับประโยชน์จากการสร้างกล้ามเนื้อขาหน้าและขาหลัง กล้ามเนื้อที่อยู่ด้านหน้าและด้านหลังของขาจะช่วยสนับสนุนข้อต่อของเรา การฝึกซ้อมสมดุลและความมั่นคง ช่วยให้กล้ามเนื้อรอบเข่าทำงานร่วมกันได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

การยืดเหยียดกล้ามเนื้อที่ตึง
หากล้ามเนื้อตึงจะทำให้เกิดการบาดเจ็บได้ การยืดร่างกายอย่างถูกต้องมีความสำคัญมาก พยายามทำร่วมกับการออกกำลังกายเพื่อสร้างการยืดหยุ่นในการฝึกซ้อมของเรา

การออกกำลังกายอย่างมีระมัดระวัง
หากเรามีโรคข้อเสื่อม ปวดเข่าเรื้อรัง หรือบาดเจ็บที่เกิดขึ้นซ้ำ เราอาจต้องเปลี่ยนวิธีการออกกำลังกาย ลองเปลี่ยนไปว่ายน้ำ การออกกำลังกายในน้ำ หรือกิจกรรมที่มีผลกระทบต่อข้อเข่าต่ำ จำกัด กิจกรรมที่มีผลกระทบมาก จะช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น

เข่าอักเสบ ปวดเข่า

การวินิจฉัยปัญหาข้อเข่า

นอกจากประวัติการเจ็บปวดทางการแพทย์และการตรวจร่างกายที่สมบูรณ์แบบแล้ว การทดสอบอื่น ๆ สำหรับปัญหาข้อเข่าอาจช่วยค้นหาสาเหตุที่แท้จริงของการปวดเข่า หรือ ปวดหัวเข่าข้างขวา และวิธีรักษา ที่ถูกต้องเหมาะสม

X-ray
การทดสอบนี้ใช้กล้องที่มองไม่เห็นด้วยตา เพื่อให้เห็นภาพของเนื้อเยื่อภายในกระดูก และอวัยวะไปยังฟิล์ม คอมพิวเตอร์ทำภาพละเอียดของอวัยวะและโครงสร้างภายในร่างกาย สามารถดูความเสียหายของโรคข้อและดูกล้ามเนื้อรอบ ๆ เข่าได้

Computed tomography scan (หรือ CT หรือ CAT scan)
การทดสอบนี้ใช้แสงและเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เพื่อทำภาพ CT แสดงภาพละเอียดของส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย รวมถึงกระดูก กล้ามเนื้อ ไขมัน และอวัยวะ การทำ CT scan จะละเอียดกว่า X-ray ทั่วไป

Arthroscopy
อ้างอิงจาก fthe American Academy of Orthopaedic Surgeons Arthoscopy เป็นกระบวนการวินิจฉัยและรักษาที่ใช้เวลาน้อยสำหรับดูความผิดปกติของข้อต่อ กระบวนนี้ใช้ท่อเจาะรูเล็ก ๆ เข้าไปในข้อต่อ ภาพของภายในข้อต่อจะถูกส่งลงบนหน้าจอ ใช้เพื่อประเมินการดูความผิดปกติหรืออาการข้อเสื่อมที่เกิดขึ้นในข้อต่อ อาจจะตรวจพบโรคกระดูกและมะเร็ง และกำหนดสาเหตุของความเจ็บปวดและการอักเสบของกระดูกได้

Radionuclide Bone Scan
เป็นเทคนิคภาพถ่ายที่ใช้สารกัมมันตรังสีน้อยมาก ซึ่งถูกฉีดเข้าสู่กระแสเลือดของผู้ป่วยเพื่อให้สามารถตรวจพบความผิดปกติในร่างกายได้ โดยการทดสอบนี้แสดงให้เห็นถึงการไหลเวียนของเลือดไปยังกระดูกและเซลล์ภายในกระดูก

การรักษาอาการปวดเข่าด้วย PRP พลาสม่าจากเกล็ดเลือดของตัวเอง

การรักษาด้วยนวัตกรรมสมัยใหม่ ด้วยการใช้เกล็ดเลือดของตัวเอง รักษาตัวเอง ช่วยฟื้นฟูข้อเข่าจากอาการปวดเข่าของโรคข้อเข่าเสื่อม โดยการใช้ Growth factor ที่สกัดออกมาได้จากตัวเอง ฉีดกลับเข้าไปข้อเข่าด้วยเข็มที่เล็กที่สุด

เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการบาดเจ็บของหมอนรองกระดูกข้อเข่า ข้อเข่าอักเสบ ลดอาการปวด เสียงดังในเข่า มีอาการบาดเจ็บและความเสื่อมของเส้นเอ็น เช่น Tennis elbow และ Golfer elbow

สำหรับผู้ป่วยที่เคยรักษาด้วยวิธีกายภาพบำบัด กินยาหรือฉีดสเตียรอยด์มาแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น การฉีด PRP (platelet rich plasma) สารสกัดพลาสม่าเข้มข้น เพื่อฟื้นฟูข้อเข่า จะช่วยลดความเสื่อมและทำให้ข้อเข่ามีสุขภาพดี

ขั้นตอนการสกัด PRP ออกมาจากตัวผู้ป่วย

  • เริ่มเก็บเลือดจากร่างกาย
  • สกัดแยกเกล็ดเลือดด้วยกรรมวิธีทางการแพทย์ที่ปลอดเชื้อ
  • นำพลาสม่าที่สกัดออกมาแล้ว ฉีดรักษาฟื้นฟูบริเวณเข่าเสื่อม
  • ประเมินอาการของร่างกายโดยแพทย์เฉพาะทาง เพื่อประเมินการดูแลรักษาอย่างเหมาะสมต่อไป

นอกจากนี้ แพทย์เฉพาะทางอาจแนะนำวิธีการฟื้นฟูดูแลที่หลากหลายเพิ่มเติม ที่เหมาะสมกับอาการที่แตกต่างกันออกไป หรือเป็นการรักษาผสมผสม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรักษา

  • ทำกายภาพบำบัด โดยนักกายภาพบำบัดวิชาชีพ เป็นวิธีการรักษาหรือบรรเทาอาการปวดหัวเข่าด้วยการเน้นไปที่การบริหารกล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้า และด้านหลัง เพื่อช่วยให้สามารถพยุงน้ำหนักของตัวเองได้มากขึ้น ช่วยเสริมสร้าง ฟื้นฟูกล้ามเนื้อหัวเข่าให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น และยังช่วยป้องกันอาการปวดในระยะยาวได้อีกด้วย
  • ใช้เครื่องมือทางการแพทย์บรรเทาปวด  HPL เป็นอีกเครื่องมือที่เข้ามาช่วยให้การรักษาเกิดประสิทธิสูง ประสิทธิผลชัดเจน เห็นผลดีและสะดวกสบายมากขึ้น เลเซอร์นี้สามารถทะลุทะลวงผ่านผิวหนังลงลึกสู่ตำแหน่งของโรคได้อย่างแม่นยำทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีของเนื้อเยื่อ (Photochemical Effect) หลั่งสารที่ช่วยลดอาการปวดได้เป็นอย่างดีโดยไม่ต้องทานยาสามารถกระตุ้นเซลล์เพื่อใช้ในการซ่อมตัวเองในระยะยาวต่อไป
  • ใช้พลังงานคลื่นสนามแม่เหล็กไฟฟ้า PMS ในการกระตุ้นการสร้างกระแสไฟฟ้าในเนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อของบริเวณหัวเข่าได้ ซึ่งสามารถเป็นประโยชน์ในการรักษา บรรเทา อาการปวดหัวเข่า และกู้คืนสมรรถภาพหลังอาการบาดเจ็บบริเวณเข่าได้

ลงทะเบียน รับคำปรึกษาจากแพทย์เฉพาะทาง

Please enable JavaScript in your browser to complete this form.
ชื่อ นามสกุล

ปวดเข่า เข่าเสื่อม รักษาอย่างไร

Leave a reply